การใช้อินเทอร์เน็ตมีประโยชน์ต่อเรามากมายในหลายๆด้าน อยู่ที่ว่าเราควรเลือกใช้ยังไงให้ถูกวิธีและสร้างสรรค์ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เรามาดูกันดีกว่าว่าอินเทอร์เน็ตมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง ?
1.อินเทอร์เน็ตช่วยในการหาความรู้ ศึกษาในเรื่องที่อยากทราบ ศึกษาในเรื่องที่มีประโยชน์
2.ช่วยให้เราติดต่อสื่อสารกันได้รวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น
3.ช่วยในการหาความรู้ใหม่ๆ ความรู้ที่สร้างสรรค์ ช่วยให้เกิดแนวคิดใหม่ๆในการทำงาน กิจกรรมต่างๆ
4.ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน เพื่อนร่วมงาน อาจารย์ ได้ใกล้ชิดมากขึ้น
5.ช่วยให้เรามีความสนุกเพลิดเพลินกับการดูสื่อต่างๆ เช่น รูปภาพ วีดีโอ
6.ช่วยในเรื่องของการทำงาน การหาข้อมูล ติดต่อกับบริษัทต่างๆ ผู้คนต่างๆมากมาย
7.ช่วยให้เราได้พบปะสังสรรค์กับผู้คนใหม่ๆ มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้เราควรรู้หลักการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตนเองสังคมและผู้อื่นด้วย
1.ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพและชัดเจนในการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต
2.ใช้ภาษาที่ถูกต้องเพราะอาจส่งผลให้สื่อสารผิดพลาดได้
3.ไม่ควรละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
4.ควรคิดก่อนทำ คิดก่อนที่จะพิมพ์อะไรลงไปในอินเทอร์เน็ต เพราะอินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว ในบางอย่างอาจส่งผลเสียต่อตนเองและส่วนรวมด้วย
5.ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และไตร่ตรองก่อนทุกครั้ง เพราะอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนศูนย์รวมผู้คนมากมาย ควรรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน
6.ไม่ควรใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหลอกลวงผู้อื่น
7.ไม่ควรไว้ใจบุคคล หรือสินค้าใดๆที่ซื้อขายกันตามอินเทอร์เน็ต เพราะอาจส่งผลเสียต่อตัวเราได้ และจะไม่มีใครรับผิดชอบ
8.ควรแบ่งเวลาให้เป็น ไม่ควรเล่นอินเทอร์เน็ตมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียในหลายๆด้านตามมาได้
9.ควรรู้จักการแยกแยะสิ่งผิดสิ่งถูกในอินเทอร์เน็ต และใช้ให้เกิดประโยชน์
หวังว่าทุกคนคงได้รับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตกันไปบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธี สร้างสรรค์ และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและสังคมด้วยนะคะ ♥
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network)
หมายถึง การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารข้อมูล
เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์
และการใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกัน (Shared Resource) ในเครือข่ายนั้น
องค์ประกอบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
โมเด็ม ( Modem : Modulator
Demodulator) หมายถึง อุปกรณ์สำหรับการแปลงสัญญาณดิจิตอล (Digital)
จากคอมพิวเตอร์ด้านผู้ส่ง เพื่อส่งไปตามสายสัญญาณข้อมูลแบบอนาลอก(Analog)
ฮับ ( Hub) คือ
อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ใช้เป็นจุดรวม และ แยกสายสัญญาณ เพื่อให้เกิดความสะดวก
ในการเชื่อมต่อของเครือข่ายแบบดาว (Star) โดยปกติใช้เป็นจุดรวมการเชื่อมต่อสายสัญญาณระหว่าง
File Server กับ Workstation ต่าง
ๆ
สวิตช์(switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณเช่นเดียวกับฮับ
จะรับส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งนั้นจะไม่กระจายไปยังทุกเครื่อง
อุปกรณ์จัดเส้นทางหรือเราเตอร์ (router)
เป็นอุปกรณ์ที่มช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน
สายสัญญาณ(cable) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
มีหลายแบบเช่นสายโคแอกซ์ สาย UTP สาย STP สายใยแก้วนำแสง
การ์ดแลน(LAN card) ส่งข้อมูลโดยผ่านสายแลน
การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายระดับเล็ก
1. การเชื่่อมต่อเครือข่ายระยะใกล้ หากมีคอมพิวเตอร์ไม่เกิน 2
เครื่อง ต้องมีการ์ดแลนและสายสัญญาณ โดยไม่ต้องใช้ฮับและสวิตช์
เชื่อมต่อโดยใช้สายไขว้ (Cross Line) เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั้ง 2
เครื่องได้โดยตรง แต่ถ้ามีมากกว่าสองเครื่อง ควรใช้สวิตช์หรือฮับด้วย
ในกรณีที่เครือข่ายมีการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก
ควรเลือใช้เราเตอร์เพื่อช่ยลดปัญหาความหนาแน่นของข้อมูล
2.การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล (เมื่อการเดินเดินสายมีความยาวมากกว่า 100
เมตร) เช่น
1) ต้องติดตั้งเครื่องทวนสัญญาณ (Repeater) ไว้ทุก 100
เมตร
เพราะเนื่องจากไม่สามารถติดตั้งฮับหรือสวิตซ์โดยผ่านสายคู่เกลียวคู่ได้
2) แบบที่สอง
ใช้โมเด็มหมุนโทรศัพท์เข้าหากันเมื่อต้องการเชื่อมต่อและเมื่อเสร็จสิ้นธุรกิจแล้วก็ยกเลิกการเชื่อมต่อ
หากต้องการถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมากระหว่างเครือข่าย
ควรเลือใช้การเช่าสัญญาณของบริษัท วึ่งจะได้ความเร็วที่มากกว่า
3) แบบที่สาม
เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบันสายสัญญาณที่เลือกใช้คือ
สายใยแก้วนำแสง ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้ระยะทางไกลและมีความเร็วสูง
รวมไปถึงความปลอดภัยของข้อมูลด้วย
4) ใช้จุดเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wireless lan) เป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณวิทยุทางอากาศแทนการใช้สายโทรศพท์เพื่อลดปัญหาจากการใช้สายสัญญาณ
เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด โดยปกติจะทำงานบนมาตรฐาน 802.11
b
5)แบบที่ห้า
เทคโนโลยี G.SHDSL ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีตระกูล DSL
(Digital subscriber line) เป็นเทคโนโลยีโมเด็มที่ทำให้คู่สายทองแดงธรรมดากลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิทัลความเร็วสูง
โดยใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation)
6) เทคโนโลยีแบบ Ethernet over VDSL เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบล่าสุดที่สามารถตะติดตั้งใช้งานได้เอง
จึงทำให้มีต้นทุนต่ำ โดยสามารถเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ทั่วไป
การเลือกใช้ซอฟแวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
สามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับออกแบบและจัดการงานด้านการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้
เช่น
- ระบบปฏิบัติการลินุกซ์
เซ็นต์โอเอส (linux community
enterprise operating system) นิยมเรียกย่อว่า
CentOS เป็นซอฟต์แวร์เปิดเผยโค้ด(open source
software)
- ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
เซิร์ฟเวอร์ (windows server)ปัจจุบันถูกพัฒนามาเป็น Windows
server 2008 ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนระบบเครือข่าย
แอพพลิเคชั่น และบริการอื่นๆที่มีความสมัยบนเว็บไซต์
นอกจากนั้นยังมีระบบโครงสร้างเครือข่ายพื้นฐานเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง
โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้
1) สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับภาระงานของเซิร์ฟเวอร์
2) เวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualization)
3) มีระบบจัดการดูแลเว็บ ระบบวิเคราะห์ปัญหา
เครื่องมือพัฒนา
4) ระบบควาปลอดภัย
ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้น พร้อมทั้งผสมผสานการ
ใช้เทคโนโลยีด้าน IDA หลายชิ้น
credit :: หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม. 5
http://www.school.net.th/library/snet1/hardware/network.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)